
Apple iPhone 14 512GB Yellow แบรนด์: APPLE
SKU: 194253750673
iPhone 14 มาพร้อมระบบกล้องถ่ายภาพคู่ที่น่าประทับใจที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone ซึ่งถ่ายภาพได้อย่างน่าทึ่งทั้งในที่ที่มีแสงสว่างน้อยและแสงสว่างจ้า รวมทั้งคุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่สำคัญอย่างการตรวจจับการชนกัน ที่สามารถตรวจค้นเหตุรถชนอย่างรุนแรง แล้วก็จะโทรวิงวอนให้คุณ
Apple iPhone 14 512GB Yellow
จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว
แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ทั้งวันแล้วก็เล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง
ชิป A15 Bionic พร้อม GPU แบบ 5-core เพื่อคุณภาพที่เร็วเต็มที่
ระบบเซลลูลาร์ 5G ที่เร็วสุดแรง
ระบบกล้องถ่ายภาพสุดล้ำเพื่อรูปที่ดียิ่งขึ้นในทุกสภาพแสงสว่าง
iOS 16 มาพร้อมวิธีที่หลากหลายยิ่งกว่าเดิม
iPhone 14 อุปกรณ์ตัวเครื่องอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมด้านที่เกี่ยวข้องกับการผลิตอากาศยาน แข็งแรงทนทาน มาตรฐานคุ้มครองปกป้องน้ำป้องกันฝุ่นผง IP68 ตามมาตรฐาน IEC 60529 (ความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที) กับ 5 เฉดสีให้เลือก ได้แก่ Midnight, Starlight, Blue, Purple รวมทั้ง Product(RED) จอแสดงผลลัพธ์ใหญ่ขึ้น เมื่อเทียบกับ iPhone 13 mini ซึ่ง iPhone 14 ใช้หน้าจอประเภท Oแอลอีดี กับเทคโนโลยี Super Retina XDR – True Tone – HDR – Display P3 สามารถแสดงสีสันสมจริงสมจังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมใช้กระจกคุ้มครองป้องกันหน้าจอแบบเซรามิก ช่วยป้องกันรอยขูดขีดและไม่เกิดรอยนิ้วมือ ชำระล้างหน้าจอได้ง่าย ส่วนข้อแตกต่าง ใช้ iPhone 13 อยู่ ควรจะกลายเป็น iPhone 14 ไหม : เปรียบ! ซื้อ iPhone 14 หรือ iPhone 13 ที่ราคาแตกต่าง 3,000 บาท เลือกรุ่นไหนดี ยังไงก็หากตกลงใจมิได้ระหว่าง iPhone 14 กับ iPhone 14 Plus แตกต่างกันมากน้อยแค่ ควรเลือกอะไรดี มาหาคำตอบกัน
รูปลักษณ์ภายนอกLOOK & DESIGN
สำหรับ iPhone 14 วางแบบไม่เปลี่ยนแปลงจาก iPhone 13 Series อะไร โดยมีเฉดสีใหม่ให้เลือกตามข้างต้นเป็นสีม่วง (Purple) ส่วนน้ำหนักไม่แตกต่างกันมากแค่ไหน ใช้งานสะดวกคล่องตัวหากแม้เป็นหญิง เหมาะสมกับผู้ที่ชอบสมาร์ทโฟนขนาดกะทัดรัด
หน้าจอแสดงผล Super Retina XDR แบบ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล มีความหนาแน่นต่อพิกเซล 460ppi ให้ความสว่างสูงสุด 1200 นิต อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1 สามารถตอบโจทย์การเล่นเกมหรือรับดูคอนเทนต์ แม้กระนั้นอาจขัดใจ ไม่รู้จักสึกเต็มตา เต็มที่ เพราะเหตุว่าจอเล็กไปหน่อย
เหนือหน้าจอขึ้นไป น่าเสียดายที่ไม่มีเทคโนโลยี Dynamic Island มาให้ด้วย ยังคงเป็นพื้นที่แนวกล้องลักษณะเดียวกันกับ iPhone 13 Series ส่วนกล้องถ่ายรูปหน้าความละเอียดเท่าเดิม 12 ล้านพิกเซล เพิ่มเติมด้วยออโต้โฟกัส โอกาสนี้คุณจะเซลฟี้ไม่หลุดเฟรมกล้องแล้วนะ นอกเหนือจากนั้นยังมีช่องลำโพงด้วย ทำให้เสียงเป็นระบบสเตอริโอ ด้วยเหตุว่ามีลำโพงข้างล่างเครื่องอีกตัวเช่นเดียวกัน
ฝั่งซ้ายมีปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง, เปลี่ยนแปลงการเปิดปิดเสียงเรียกเข้า และก็ถาดใส่ซิมการ์ด ทางขวาตัวเครื่องมี Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง และก็กดปุ่มเรียกใช้งาน Siri
ถาดซิมการ์ดสำหรับใส่ซิมการ์ดจำพวก Nano โดยใส่ได้หนึ่งซิมการ์ด อีกหนึ่งซิมการ์ดจะเป็นจำพวก E-SIM
ข้างล่างตัวเครื่องมี Lighting สำหรับชาร์จไฟเตอรี่รวมทั้งถ่ายโอนข้อมูล กับช่องลำโพ เทคโนโลยีความเร็วสำหรับเพื่อการชาร์แบตเตอรี่เตอปรี่รองรับสูงสุด 20 วัตต์ โดยจะต้องซื้ออะแดปเตอร์แยก สามารถชาร์จจาก 0%-50% ในเวลา 30 นาที
ด้านหลังตัวเครื่องก็มีดีไซน์แบบเดิมด้วยเหมือนกัน มาพร้อมกล้องเลนส์คู่กรณีละเอียด 12 ล้านพิกเซล แบ่งเป็นเลนส์หลักและเลนส์มุมกว้าง
อย่างไรก็ดีด้านหลังตัวเครื่องออกแบบให้รองรับการใช้แรงงานการชาร์จแบบ MagSafe ความเร็วสูงสุด 15 วัตต์ รวมถึงการชาร์จไร้สายทั่วๆไป (Qi) ความเร็วสูงสุด 7.5 วัตต์
เครื่องใช้ไม้สอยด้านในกล่อง
iPhone 14
สาย USB Type-C เป็น Lighting
คู่มือแนะนำวิธีใช้งาน
สเปคเพิ่มเติมของ Apple iPhone 14
ขนาดตัวเครื่อง : 146.7 x 71.5 x 7.8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 172 กรัม
ระบบปฏิบัติการ : iOS 16
จอแสดงผล : Super Retina XDR แบบ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล มีความหนาแน่นต่อพิกเซล 460ppi ให้ความสว่างสูงสุด 1200 นิต อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1
หน่วยประมวลผล : ชิปเซ็ต Apple A15 Bionic (สถลาปัตยากรรมการสร้าง 5 นาโนเมตร)
ระบบเชื่อมต่อ : 5G, 4G LTE, WiFi 6, Bluetooth 5.3, NFC, GPS, GLONASS, เข็มทิศดิจิตอล
มาตรฐานคุ้มครองน้ำป้องกันฝุ่นผงระดับ IP68
รองรับการชาร์จไร้สายแบบ MagSafe 15 วัตต์ และก็ Qi 7.5 วัตต์
เทคโนโลยีชาร์จเร็ว รองรับ แล้วก็ต้องซื้ออะแดปเตอร์ต่างหาก
รองรับไฟล์วิดีโอ : HEVC, H.264, MPEG-4 Part 2 และ Motion JPEG
รองรับเทคโนโลยีการแสดงผล HDR ในแบบ Dolby Vision, HDR10 และก็ HLG
Face Time : ความละเอียดสูงสุด FullHD (1080p)
ระบบจำบริเวณใบหน้า
ความจุพื้นที่เก็บข้อมูลด้านใน 128GB, 256GB และก็ 512GB
รายการอาหาร & ฟังก์ชันMENU & FUNCTION
iOS 16 รีวิวมือถือ รูปของคุณ ฟอนต์ของคุณ วิดเจ็ตของคุณ เพราะว่านี่เป็น iPhone 14 ของคุณ
iOS 16 คือดีย์มาก สามารถให้ท่านปรับปรุงจอล็อคได้ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงข้อมูล, การแจ้งเตือนข้อมูล หรือฟอนต์ เพื่อตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณที่สุด แม้กระนั้นจุดที่เปลี่ยนไป เป็นความอิสระกับความสวยอย่างพอดี
กล้องถ่ายรูปหน้าเซลฟี่สำหรับจดใจใบหน้าเพื่อรับรองตัวตนปลดล็อคเข้าเครื่อง
ด้วยความรู้ความเข้าใจอันฉลาดของเทคโนโลยี TrueDepth กับชุดคำสั่งเฉพาะ เชื่อมั่นได้ว่าจะไม่มีผู้ใดมาปลดล็อค iPhone 14 ของคุณได้ นอกจากตัวคุณเอง รีวิวมือถือ รวมทั้งใน iOS16 ได้ปรับแก้สมรรถนะการตรวจจับ เพิ่มความมีประสิทธิภาพ แล้วก็แม่นในการปลดล็อคขณะสวมหน้ากากอนามัย นอกจากนี้ยังสแกนหน้าได้ในแบบแนวนอน ไม่ต้องถือตั้งเครื่องอีกต่อ
สเปคแรงขึ้น แบตฯ ดีขึ้นกว่าเดิม
สำหรับ iPhone 14 ใช้หน่วยประมวลผลจากรุ่นท็อปของซีรีย์ที่แล้ว นั่นคือ A15 Bionic มาพร้อม RAM 6GB กับแบตเตอรี่ที่มีความจุเพิ่มนิดหน่อย แต่หลักสำคัญที่น่าสนใจไม่เคยรู้จะพอเพียงกับลูกเล่นที่มีไหม ดังเช่นว่าการปรับแต่งจอล็อคตามที่เกริ่นข้างต้น
ระบบเชื่อมต่อครบครัน
ไม่ยุ่งยากต่อการใช้งานร่วมกับเครื่องใช้ไม้สอยอื่นๆมากเพิ่มขึ้น เพราะว่ามีระบบการเชื่อมต่ออีกทั้ง 5G, WiFi 6-MIMO 2×2, Bluetooth 5.3, NFC, GPS, GLONASS, Galileo, QZSS, BeiDou และก็ iBeacon เทคโนโลยีเจาะจงตำแหน่งในตึก
FaceTime แบบเสียง
FaceTime HD (1080p) แบบวิดีโอผ่าน 5G หรือ Wi‑Fi
Voice over LTE (VoLTE)
การโทรผ่าน Wi‑Fi (VoWiFi)
การแชร์หน้าจอ
จุดแข็งน่าดึงดูดSPECIAL & FEATURES
EMERGENCY SOS VIA STELLITE เป็นอย่างไร ? : สำหรับฟีเจอร์ดังที่กล่าวถึงมาแล้วเป็นฟีเจอร์ที่ไม่ใหม่ แต่ว่ามักนิยมมองเห็นกันเฉพาะสมาร์ทโฟนจำพวกอึดถึกทนที่ใช้ในงานเฉพาะเท่านั้น พอๆกับนี่เป็นครั้งแรกที่ประยุกต์ใช้กับสมาร์ทโฟนทั่วๆไป โดยได้แก่การใช้คุณประโยชน์จากดาวเทียมให้ท่านสามารถติดต่อกรณีเร่งด่วนได้ตลอด แม้อยู่ภายในเขตพื้นที่ที่อับสัญญาณ เพื่อส่งข้อความลักษณะ SOS ไปยังหมายเลขฉุกเฉินที่บันทึกไว้ภายในเครื่อง ซึ่งๆหน้าหน้าจอจะแสดงตำแหน่งสัญญาณของดาวเทียม จากนั้นให้พวกเราเดินเข้าพบตำแหน่งดาวเทียมพอให้สัญญาณแรง แล้วก็โทรออกได้นั่นเอง
นอกจากนี้ทำงานชมรมร่วมกับการตรวจจับเหตุรถชนอย่างรุนแรง เพื่อสามารถโทร พร้อมใจความ SOS ได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งล่าสุด, ปริมาณแบตเตอรี่ รวมทั้งข้อมูลที่จำเป็นจะต้องเบื้องต้น ซึ่งทางแอปเปิ้ลกล่าวว่า iOS 16 ถูกพัฒนาให้ตรวจค้นการกระแทกพร้อมประเมินว่านี่เป็นอุบัติเหตุรถชนได้ จากความเคลื่อนไหวความเร็วและทิศทางกระทันหัน, ค่าความดันในห้องโดยสาร, ระดับเสียงของการปะทะ เป็นต้น ทุกข้อมูลถูกประเมินผลและก็เก็บค่าวัดตรวจจากห้องปฏิบัติการก่อให้เกิดความแม่นยำและก็เสถียรใช้งานได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ฟีเจอร์นี้ไม่ได้ฟรี มีค่าใช้จ่าย ไอที พื้นฐานคุณสามารถทดลองใช้งานได้ก่อน 2 ปี หลังจากนั้นมีค่าใช้จ่ายตามแพ็กเกจซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ พื้นฐานใช้งานได้เฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วก็แคนาดาก่อนเท่านั้น เริ่มตั้งแต่พฤศจิกายนนี้ แต่ว่าจากรูปภาพมีใจความเป็นภาษาไทย ไม่แน่ว่าในอนาคตเราบางทีอาจได้ลองใช้ฟีเจอร์นี้จริงๆก็ได้
ใช้งานได้หายห่วงทุกสถานการณ์
Apple iPhone 14 มีมาตรฐานปกป้องน้ำคุ้มครองป้องกันฝุ่นผง IP68 ตามมาตรฐาน IEC 60529 (ความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
เหมาะแก่การรับดูคอนเทนต์รวมทั้งเล่นเกม แต่ก็แค่นั้น เพราะมีอัตรารีเฟรชเรทเพียงแค่ 60Hz….
Apple iPhone 14 ใช้หน้าจอประเภท OLED เทคโนโลยี Super Retina XDR – True Tone – HDR (Dolby Vision, HDR10 และก็ HLG) – Display P3 ที่สามารถแสดงสีสันได้เหมือนจริงมากยิ่งขึ้น พร้อมใช้กระจกคุ้มครองจอแบบเซรามิก ช่วยป้องกันรอยขูดขีดและไม่กำเนิดรอยนิ้วมือ ชำระล้างหน้าจอได้ง่าย นอกเหนือจากนั้นมีรองรับระบบเสียง AAC, MP3, Apple Lossless, FLAC, Dolby Digital, Dolby Digital Plus แล้วก็ Dolby Atmos
กล้องถ่ายภาพดิจิตอลเปลี่ยนอย่างไรบ้าง
Apple ได้ปรับปรุงกล้องถ่ายรูปที่ประมวลผลภาพที่ก้าวหน้าเพิ่มขึ้นในทุกภาวะแสง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่แสงน้อย ถ่ายก้าวหน้าสูงสุด 2.5 เท่า ของเลนส์กล้องหลัก และก็สูงสุด 2 เท่าของกล้องถ่ายภาพเลนส์อัลตร้าไวด์ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน โดยมีเซนเซอร์ใหญ่ขึ้นและก็รูรับแสงกว้างกว่าเดิม ก็เลยรับแสงสว่างได้มากขึ้นถึง 49% นอกนั้นยังมีเทคโนโลยี Photonic Engine ดำเนินการบนฐานราก Deep Fusion ที่สามารถช่วยปรับปรุงแก้ไขการถ่ายรูปในพื้นที่แสงสว่างน้อย ดังเช่น เวลากลางคืนให้งดงามงานเด่นเยอะขึ้นเรื่อยๆ
เนื้อหากล้องถ่ายภาพหลัง
เลนส์หลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ระยะโฟกัส 26 มิลลิเมตร รูรับแสงสว่าง f/1.5 มีระบบคุ้มครองป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Optical มีชุดเลนส์ทั้งปวง 7 ชิ้น
เลนส์ไวด์ประกอบด้วยชุดเลนส์ทั้งผอง 5 ชิ้น ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 120 องศา ระยะจุดโฟกัส 13 มม. รูรับแสงสว่าง f/2.4
ซูมวางแบบออปติคัล 2 เท่า และซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 ไอที เท่า
แฟลช True Tone
การบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K แบบ 24/30/60 เฟรมต่อวินาที และ HDR – Dolby Vision แบบ 60 เฟรมต่อวินาที
โหมดภาพยนต์สามารถถ่ายเหมาะความละเอียด 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
วิดีโอสโลว์โมชั่นความละเอียด 1080p ที่ 120 เฟรมต่อวินาที หรือ 240 เฟรมต่อวินาที
วิดีโอไทม์แลปส์ พร้อมระบบคุ้มครองภาพสั่นไหว
ไทม์แลปส์ในโหมดเวลากลางคืน
กล้องถ่ายรูปหน้า : ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 ออโต้จุดโฟกัสด้วย Focus Pixels มีชุดเลนส์ทั้งสิ้น 6 ชิ้น แล้วก็ Retina Flash
กล้องถ่ายรูปหน้ารองรับการบันทึกวิดีโอ 4K/HDR – Dolby Vision, วิดีโอสโลว์โมชั่น และก็วิดีโอไทม์แลปส์ พร้อมระบบคุ้มครองป้องกันภาพสั่นไหว
เป็นมือโปร ดูแลภาพยนตร์หรือถ่าย Vlog
ครั้งแรกกับรุ่นเล็กของ iPhone 14 ที่ให้ท่านสามารถบันทึกวิดีโอแบบ cinematic ในความละเอียด 4K ที่ 24 เฟรมต่อวินาที พร้อมออโต้จุดโฟกัสและก็ระบบปกป้องภาพสั่นไหวให้ภาพของคุณงามชัดแจ๋ว โฟกัสภาพอยู่เสมอ อีกทั้งมีฟังก์ชั่นซูมขณะบันทึกได้ด้วย นอกจากนั้นยังบันทึกเสียงแบบระบบสเตอริโอ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานชิ้นโปรดของคุณอย่างอิสระ
โหมดการถ่ายวิดีโอใหม่ : Action Mode โดยเป็นการทำงานระหว่างอุปกรณ์รวมทั้งซอฟต์แวร์ช่วยทำให้คุ้มครองป้องกันการสั่นไหวได้ดิบได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะสั่นไหวเฉพาะจุดที่โฟกัสอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมบันทึกภาพวิดีโอได้แบบ Dolby Vision HDR ความละเอียด 4K แบบ 60 เฟรมต่อวินาที
iPhone 14 เหมาะสมกับใครกันแน่ ถ้าหากใช้ iPhone 12 หรือ iPhone 13 ไอที อยู่คุ้มไหมที่จะแปลง
สำหรับ iPhone 14 นับว่าเป็นรุ่นเล็กสุด แต่ว่าถ้าหากคนใดกันไม่เคยใช้ iPhone มาก่อน และมีงบเยอะแยะอยู่ ก็เหมาะที่จะทดลอง ขั้นต่ำคุณก็ได้ประสบการณ์ในเรื่องของกล้องที่ดีมากยิ่งกว่าเดิม แม้กระนั้นถ้าหากผู้ที่ใช้ iPhone 12 กับ iPhone 13 อยู่ จะอัพเกรดเปลี่ยนเป็นรุ่นดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้น หากไม่ติดของใหม่ ชี้แนะว่าอัปเดต iOS 16 ก็เพียงพอแล้ว ด้วยเหตุว่ามิได้มีฟีเจอร์ใหม่อะไรที่จะต้อง WOW เบอร์นั้น
สรุปเลือกรุ่นไหนดีระหว่าง iPhone 13 กับ iPhone 14
ถ้าหากตกลงใจจะซื้อระหว่างสองรุ่นนี้แล้ว แนะนำว่าให้เลือก iPhone 14 คือหนทางที่คุ้มที่สุด แม้จะจะต้องเพิ่มเงินอีก 3,000 บาทก็ตาม ด้วยเหตุว่าได้อะไรใหม่ๆมาอีกเยอะเลย เพียงแค่สเปคกับคุณภาพด้านการถ่ายรูปและก็วิดีโอก็ยอดเยี่ยมแล้ว